ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของนางสาวจิรัสยา สัตตัง ค่ะ 5511200957 การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่16






 วันนี้อาจารย์สอบร้องเพลงเต็ม 5คะแนน
โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
ร้องเอง เนื้อร้องถูกต้อง ได้ 5 คะแนน
ดูเนื้อ ร้องถูกทำนอง      ได้ 4 คะแนน
ดูเนื้อให้เพื่อนช่วยร้อง    ได้ 3 คะแนน

ดิฉันจับฉลากได้เพลง รำวงดอกมะลิ



เจอกันใหม่เทอมหน้านะคะ รักนะจุ้บ จุ้บ........


วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่15





วันนี้อาจารย์ได้สอนเกี่ยวกับวิธีเขียนแผน IEP
 แผน IEP 
- แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเด็ก ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก

การเขียนแผน IEP
อันดับแรกต้องคัดแยกเด็กพิเศษออกจากเด็กปกติ ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร และครูจะต้องประเมินเด็กเป็นระยะ เพื่อที่จะได้ทราบว่าเด็กต้องเริ่มช่วยเหลือจากจุดไหน
ครูต้องทราบว่ามีสิ่งไหนบ้างที่เด็กทำได้และสิ่งไหนบ้างที่เด็กทำไม่ได้ จากนั้นจึงเริ่มเขียนแผน IEP

IEP ประกอบด้วย
-ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก
-ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
-ระบุความสามารถของเด็กในปัจจุบัน
-เป้าหมายระยะยาวประจำปปี/เป้าหมายระยะสั้น
-ระบุ วัน/เดือน/ปี ที่เริ่มทำการสอน  และคาดคะเนการสิ้นสุดของแผน
-วิธีการประเมินผลเด็กจากการใช้แผน IEP


ขั้นตอนการทำแผนการศึกษารายบุคคล

1. การรวบรวมข้อมูล
-รายงานทางการแพทย์
-รายงานการประเมินด้านต่างๆ
-บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง

2. การจัดทำแผน
-ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
-กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น
-กำหนดกิจกรรม
-จะต้องได้รับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

การกำหนดจุดมุ่งหมาย
จุดมุ่งหมายระยะยาว กำหนดให้ชัดเจน แม้กว้าง เช่น

-น้องอั๋นช่วยเหลือตนเองได้
-น้องหยกเล่นร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น

จุดมุ่งหมายระยะสั้น
ตั้งให้อยู่ภายใต้จุดมุ่งหมายหลัก
เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์
-จะสอนใคร
-มีพฤติกรรมอะไร
-สอนเมื่อหร่ ที่ไหน
-พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน

Ex
ใคร                         เด็กหญิงน้ำ
อะไร                       เดินทรงตัวตามแนวเส้นตรงที่ครูทำไว้
ที่ไหน/ เมื่อไหร่       กิจกรรมกลางแจ้ง
ดีขนาดไหน            เดินได้สองรอบในเวลา 5 นาที  

3. การใช้แผน
เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยใช้แผนระยะสั้นนำมาเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเด็ก
แยกย่อยขั้นตอนให้เหมาะสมกับเด็ก พร้อมทั้งจัดเตรียมสื่อและกิจกรรมในการเรียนการสอน

4. การประเมินผล
-โดยทั่วปจะประเมินภาคเรียนละครั้งหรือย่อยกว่านั้น
-ควรมีการกำหนดวิธีการประเมินและเกณฑ์การวัดผล

**โดยระบุเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุดการใช้แผน และวิธีการวัดและประเมินผลเด็ก







อาจารย์ให้แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ให้ช่วยกันคิด การเขียนแผน IEP ให้ลองสังเกตเพื่อนในกลุ่มว่ามีคนไหนเข้าข่ายเด็กพิเศษ เช่น บกพร่องด้านร่างกายและสุขภาพ จากนั้นก็ให้เริ่มเขียนแผน
กลุ่มของดิฉันเลือก นางสาวดาราวรรณ บกพร่องทางการทรงตัว (สมมุติค่ะ55)




  


การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำวิธีการเขียนแผน IEP ไปใช้ได้ในอนาคตการสอน ถ้าเด็กห้องที่เราสอนมีเด็กพิเศษเรียนรวมกับเด็กปกติ เราสามาถเขียนแผนเพื่อจัดกิจกรรมพัฒนาเด็กได้อย่างตรงจุดค่ะ



ตนเอง  มาเรียนสาย แต่ก็เข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอน ระดมความคิดในการทำงานกลุ่ม

เพื่อน  เพื่อนส่วนมากตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย

อาจารย์ อาจารย์อธิบายได้เข้าใจค่ะ และเดินดูนักศึกษาเวลาทำงาน ให้คำแนะนำในการเขียนแผนค่ะ



วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่14



***วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากหยุดเทศกาลวันสงกรานต์







วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่13





**วันนี้ดิฉันไม่ได้มาเรียน  ลากลับต่างหวัดค่ะ
 แต่ดิฉันได้สรุปจากชีทของอาจารย์ เป็นmind mapping ได้ดังนี้







วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่12






** อาจารย์ให้ไปเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาสีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ในวันพุธที่ 1 เมษายน 2558



วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่11




****วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน อาจารย์สอบเก็บคะแนนในชั้นเรียนเกี่ยวกับความรู้ที่ได้เรียนมา                    ทั้งหมด 5 ข้อ 10คะแนน





วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่10



****วันนี้ดิฉันไม่ได้มาเรียนเนื่องจากไม่สบาย
แต่ก็สอบถามเกี่ยวกับเรียนในห้องจากๆเพื่อน และได้อ่านชีทที่อาจารย์ให้ปริ้นมาเรียน โดยสรุปตามความเข้าใจ ดังนี้





 การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
 คือการฝึกให้เด็กได้รู้จักช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน เช่น การแต่งตัว การใส่เสื้อผ้า ติดกระดุมเสื้อ ใส่รองเท้าถุงเท้า การรับประทานอาหาร การอาบน้ำ ซึ่งเป็นทักษะเบื้องต้นง่ายๆที่เด็กต้องฝึก้ให้เด็กช่วยเหลือตนเองได้

ทักษะการช่วยเหลือตนเอง จะต้องให้เด็กเรียนรู้การดำรงชีวิตโดยอิสระมากที่สุด เช่น การกิน การเข้าห้องน้ำ การแต่งตัว แม้กระทั่งกิจวัตรต่างๆในแต่ละวัน ต้องให้อิสระกับเด็กไม่บังคับหรือวางกรอบให้เด็กทำสิ่งนั้นๆได้ เพราะเด็กพิเศษต้องฝึกบ่อยๆและทำซ้ำๆ ไม่ได้ฝึกเพียงแค่ครั้งสองครั้งก็ทำได้เหมือนเด็กปกติ ครูหรือผู้ปกครองควรใจเย็นและให้โอกาสเด็กได้ทำบ่อยๆ ให้อิสระในการทำโดยที่ไม่ไปทำให้เด็กเพราะคิดว่าเด็กคงทำไม่ได้หรือทำช้า ผู้ใหญ่มักทำสิ่งต่างๆให้เด็กมากเกินไป ทำให้แม้กระทั่งสิ่งที่เด็กสามารถทำได้หากให้เวลาเขาทำ เด็กพิเศษจะเลียนแบบการช่วยเหลือตนเองจากเพื่อนทเด็กที่โต กว่าและผู้ใหญ่  ซึ่งความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กพิเศษ เพราะจะทำให้เด็กได้กระทำด้วยตัวเอง เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง เกิดความภูมิใจว่าเราก็สามารถทำได้เหมือนกับคนอื่นๆ จะทำให้เขาเกิดทัศนคติที่ดีต่อการทำสิ่งนั้น

การที่เราจะให้เด็กพิเศษทำอะไรหรือสอนให้เขาช่วยเหลือตนเอง ควรแบ่งทักษะของเด็กออกเป็นขั้นๆ เรียงลำดับตามขั้นตอน เช่น
การเข้าส้วม
-เดินเข้าไปในห้องส้วม
-ดึงกางเกงลงมา
-ก้าวขึ้นไปนั่งบนส้วม
-ปัสสาวะหรืออุจจาระ
-ใช้กระดาษชำระเช็ดก้น
-ทิ้งกระดาษชำระในตะกร้า
-กดชักโครกหรือตักน้ำราด
-ดึงกางเกงขึ้น
-ล้างมือ
-เช็ดมือ
-เดินออกจากห้องส้วม